top of page

สินเชื่อทางการแพทย์ ทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้คลินิกในกรุงเทพและปริมณฑลเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2568

  • รูปภาพนักเขียน: GETCASH-CONSULTANT
    GETCASH-CONSULTANT
  • 18 พ.ย.
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 20 พ.ย.

ในยุคที่ธุรกิจสุขภาพและความงามเติบโตแบบก้าวกระโดด คลินิกทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นคลินิกความงาม คลินิกทันตกรรม คลินิกเวชกรรมทั่วไป หรือคลินิกเฉพาะทาง ล้วนต้องเผชิญกับการแข่งขันสูง ต้นทุนอุปกรณ์ราคาแพง และความจำเป็นในการรักษาคุณภาพบริการให้เหนือคู่แข่ง โดยเฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑลที่มีจำนวนคลินิกหนาแน่นมากที่สุดในประเทศไทย สิ่งที่เจ้าของคลินิกส่วนใหญ่ต้องการไม่ใช่แค่รายได้คงที่ แต่คือ เงินทุนหมุนเวียนและวงเงินพร้อมใช้ เพื่อบริหารธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคง

หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คลินิกสามารถก้าวต่อไปได้ทันที คือ สินเชื่อทางการแพทย์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ประกอบการที่ต้องการเสริมสภาพคล่อง ลงทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ หรือขยายสาขาให้ทันความต้องการของตลาด

บทความนี้จะอธิบายแบบเจาะลึก ทำไม “สินเชื่อทางการแพทย์” จึงเป็นโอกาสสำคัญของคลินิกในกรุงเทพและปริมณฑล พร้อมแนะนำกลยุทธ์บริหารเงินทุนอย่างมืออาชีพเพื่อให้เจ้าของกิจการนำไปใช้ได้จริง


เจ้าของกิจการคลินิกได้รับอนุมัติสินเชื่อทางการแพทย์
สินเชื่อทางการแพทย์

ทำไมคลินิกในกรุงเทพและปริมณฑลต้องพิจารณาใช้สินเชื่อทางการแพทย์


1. ต้นทุนอุปกรณ์แพทย์สูงขึ้นทุกปี

อุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับคลินิก เช่น เครื่องเลเซอร์ เครื่อง X-ray ดิจิทัล เครื่อง IPL เก้าอี้ทำฟัน เครื่องมือศัลยกรรม หรือระบบคอมพิวเตอร์เวชระเบียน ล้วนมีราคาหลักแสนถึงหลักล้านบาท แม้คลินิกที่มียอดขายดี ก็อาจไม่สามารถจ่ายสดได้ทันที การใช้ สินเชื่อทางการแพทย์ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการจัดหาเครื่องมือทันสมัยโดยไม่กระทบสภาพคล่องของคลินิก

2. การแข่งขันสูงในพื้นที่เมืองหลวง

ในกรุงเทพและปริมณฑล คลินิกเปิดใหม่เพิ่มขึ้นทุกเดือน เจ้าของกิจการจำเป็นต้องลงทุนการตลาด ตกแต่งสถานที่ และเพิ่มบุคลากร เพื่อให้บริการที่ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้จำเป็นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนที่พร้อมใช้ในช่วงเวลาสำคัญ

3. ระยะเวลาคืนทุนของคลินิกค่อนข้างยาว

คลินิกส่วนใหญ่ต้องใช้เวลา 6 เดือน – 2 ปีในการคืนทุน ดังนั้นการมี สินเชื่อทางการแพทย์ ที่ให้ระยะเวลาผ่อนชำระยืดหยุ่นและรองรับภาระค่าใช้จ่ายประจำ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการขาดสภาพคล่อง

4. ความไม่แน่นอนด้านรายได้

แม้ว่าธุรกิจสุขภาพจะเติบโต แต่รายได้อาจไม่สม่ำเสมอ เช่น ฤดูกาลของลูกค้า สถานการณ์เศรษฐกิจ หรือค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่เข้ามาแบบไม่คาดคิด เช่น เครื่องมือเสีย บุคลากรลาออก ทำให้คลินิกจำเป็นต้องมีวงเงินสำรองที่พร้อมช่วยทันที



สินเชื่อทางการแพทย์คืออะไร และเหมาะกับใคร

สินเชื่อทางการแพทย์ คือวงเงินกู้ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการคลินิกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลเจ้าของกิจการ โดยมีการพิจารณาจากกระแสเงินสด รายได้ และศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ มากกว่าการใช้ทรัพย์สินค้ำประกันแบบสินเชื่อทั่วไป


เหมาะสำหรับคลินิกประเภทใดบ้าง

  • คลินิกความงาม (Aesthetic Clinic)

  • คลินิกทันตกรรม

  • คลินิกเวชกรรมทั่วไป

  • คลินิกเฉพาะทาง เช่น หูคอจมูก ผิวหนัง สูตินรีเวช

  • คลินิกกายภาพบำบัด

  • คลินิกตรวจสุขภาพ

  • คลินิกที่ต้องการขยายสาขาในกรุงเทพและปริมณฑล

สินเชื่อคลินิก เป็นหนึ่งในสินเชื่อเฉพาะทางที่เจ้าของกิจการใช้บ่อยที่สุด เพราะช่วยให้จัดการต้นทุนต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น


ประเภทของสินเชื่อทางการแพทย์ที่คลินิกนิยมใช้


1. สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง (Working Capital Loan)

เหมาะสำหรับ

  • ค่าเช่าสถานที่

  • ค่าจ้างบุคลากร

  • ค่าอุปกรณ์สิ้นเปลือง

  • ค่าใช้จ่ายประจำเดือน

สินเชื่อทางการแพทย์ในรูปแบบนี้ทำให้คลินิกสามารถบริหารกระแสเงินสดได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในช่วงรายได้ไม่สม่ำเสมอ


2. สินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์

เหมาะกับคลินิกที่ต้องการ

  • ซื้อเครื่องเลเซอร์

  • อัปเกรดเครื่อง X-ray

  • ลงทุนในเครื่องมือศัลยกรรม

  • ใช้เทคโนโลยีการรักษาใหม่ ๆ

ช่วยให้คลินิกแข่งขันกับตลาดที่เน้นความทันสมัยได้ดีขึ้น


3. สินเชื่อเพื่อขยายกิจการ / เปิดสาขา

พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมีทำเลทองที่เหมาะสำหรับการเปิดคลินิก เช่น– ทองหล่อ, พระราม 9, ลาดพร้าว, รังสิต, บางนา, นนทบุรี, สมุทรปราการซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง สินเชื่อประเภทนี้ช่วยให้คลินิกสามารถเติบโตเร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอเงินสดสะสมเป็นปี


4. วงเงิน OD (Overdraft)

เหมาะสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น

  • เครื่องมือเสียต้องซ่อมทันที

  • ค่าใช้จ่ายด่วนที่ไม่คาดคิด

  • ต้องจ่ายเงินเดือนล่วงหน้า

วงเงิน OD ช่วยให้คลินิกมีสภาพคล่องพร้อมใช้ตลอดเวลา


ข้อดีของสินเชื่อทางการแพทย์ที่เจ้าของคลินิกต้องรู้


1. อนุมัติไว 1–3 วัน

ธุรกิจคลินิกต้องการความรวดเร็ว สินเชื่อประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้รู้ผลไว และได้รับเงินทันทีเมื่อต้องการ


2. ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์มูลค่าสูง

หลายคลินิกไม่มีที่ดินหรือทรัพย์สินค้ำ การใช้สินเชื่อคลินิกช่วยให้เข้าถึงวงเงินได้ง่ายขึ้น


3. วงเงินสูง รองรับการลงทุนเป็นล้าน

เหมาะกับคลินิกที่ต้องการลงทุนอุปกรณ์ใหม่หรือขยายพื้นที่บริการ


4. เงื่อนไขผ่อนชำระยืดหยุ่น

สอดคล้องกับรายได้ของคลินิกที่อาจขึ้นลงตามฤดูกาล


5. ใช้ได้กับคลินิกทุกประเภท

ไม่มีข้อจำกัดว่าเป็นคลินิกเปิดใหม่หรือเปิดมานาน ขอเพียงมีรายได้และกระแสเงินสดพอสมควร ก็สามารถยื่นสมัครได้


คุณสมบัติผู้สมัครสินเชื่อทางการแพทย์

ผู้ประกอบการที่ต้องการสมัครควรมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้:

  • เป็นเจ้าของกิจการคลินิกในกรุงเทพหรือปริมณฑล

  • มีรายได้คลินิกต่อเดือนตามเกณฑ์ที่ผู้ให้บริการกำหนด

  • มีเอกสารนิติบุคคล (ถ้ามี)

  • มีบัญชีรายรับ–รายจ่าย หรือเอกสารกระแสเงินสด

  • มีประวัติการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (ไม่จำเป็นต้องเช็คบูโรในบางบริการ)


ตัวอย่างคลินิกที่ใช้สินเชื่อทางการแพทย์แล้วได้ผลจริง


คลินิกความงามย่านลาดพร้าว

ใช้สินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ มูลค่า 950,000 บาท เพิ่มยอดลูกค้าได้ 30–40% ภายใน 3 เดือน


คลินิกทันตกรรมที่บางนา

ลงทุนซื้อเก้าอี้ทำฟัน 2 ตัว พร้อมเครื่อง X-ray ดิจิทัล ทำให้รองรับคนไข้ได้เพิ่มขึ้นวันละ 15–20 ราย


คลินิกเวชกรรมทั่วไปในนนทบุรี

ใช้วงเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง พร้อมจ่ายค่าเช่าพื้นที่ที่ราคาเพิ่มขึ้นทุกปี

ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า สินเชื่อคลินิก มีประโยชน์อย่างแท้จริงต่อธุรกิจในพื้นที่เมืองใหญ่



ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อทางการแพทย์

  1. ติดต่อที่ปรึกษาเพื่อประเมินวงเงิน

  2. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

  3. ส่งใบสมัครออนไลน์หรือผ่านผู้เชี่ยวชาญ

  4. ตรวจสอบรายได้และกระแสเงินสด

  5. รอผลอนุมัติ

  6. รับวงเงินและนำไปใช้ทันที

ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาเพียง 1–3 วัน เหมาะสำหรับคลินิกที่ต้องการเงินด่วนและต้องการความพร้อมทางการเงินทันที


กลยุทธ์บริหารสินเชื่อทางการแพทย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

1. ใช้เงินตามแผน ไม่ใช้ตามอารมณ์

เจ้าของคลินิกควรวางแผนก่อนกู้ว่าเงินก้อนนี้ต้องใช้เพื่ออะไร เช่น ขยายสาขา ซื้อเครื่องมือ หรือเสริมสภาพคล่อง

2. เลือกลงทุนในสิ่งที่สร้างรายได้

เช่น เครื่องมือที่สามารถคืนทุนได้เร็ว หรือบริการที่มีลูกค้าจำนวนมาก

3. แบ่งเงินบางส่วนไว้สำรองกรณีฉุกเฉิน

เพื่อให้คลินิกมีเงินหมุนตลอดเวลา

4. จัดการภาระหนี้อย่างมีวินัย

ตรวจสอบตารางชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดดอกเบี้ยและป้องกันการค้างชำระ


เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการสินเชื่อจากผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล

ผู้ให้บริการที่เข้าใจพื้นที่ จะรู้พฤติกรรมผู้บริโภค ทำเลทอง และรูปแบบธุรกิจของคลินิกแต่ละย่าน ทำให้สามารถ

  • ปรับวงเงินได้เหมาะสม

  • พิจารณาเอกสารได้รวดเร็ว

  • ให้คำแนะนำเชิงธุรกิจได้ตรงจุด

การเลือกบริษัทที่เชี่ยวชาญในสินเชื่อคลินิก จะช่วยลดเวลา เพิ่มโอกาสอนุมัติ และทำให้เจ้าของคลินิกมั่นใจว่าได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพจริง


สินเชื่อทางการแพทย์คือกุญแจสำคัญสู่การเติบโตของคลินิกในกรุงเทพและปริมณฑล

ในยุคที่การแข่งขันสูง ต้นทุนเพิ่มขึ้น และความต้องการจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเข้าถึง สินเชื่อทางการแพทย์ คือทางเลือกที่ช่วยให้คลินิกสามารถขยายบริการ ยกระดับคุณภาพ และรักษาความมั่นคงของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

ไม่ว่าคุณจะเป็นคลินิกความงาม คลินิกทันตกรรม หรือคลินิกเวชกรรม สินเชื่อคลินิกคือเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่


คำถามที่พบบ่อย (FAQ) — สินเชื่อทางการแพทย์


1) คลินิกเปิดใหม่สามารถขอสินเชื่อทางการแพทย์ได้ไหม?

ได้ครับ คลินิกเปิดใหม่สามารถสมัครได้ แต่ผู้ให้บริการจะพิจารณาจาก

  • ทำเลคลินิก

  • ประสบการณ์ผู้ประกอบการ

  • แผนธุรกิจ

  • เอกสารรายได้เบื้องต้นหากเป็นคลินิกเปิดใหม่ในกรุงเทพและปริมณฑล มักมีโอกาสอนุมัติสูงกว่าเพราะมีความต้องการสูงและศักยภาพธุรกิจชัดเจน


2) สมัครสินเชื่อคลินิกต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันไหม?

ส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ โดยพิจารณาจาก

  • รายได้คลินิก

  • การเดินบัญชี

  • กระแสเงินสด

  • ความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการเหมาะกับคลินิกที่ไม่มีที่ดินหรืออสังหาไว้ค้ำประกัน


3) สินเชื่อทางการแพทย์อนุมัติไวแค่ไหน?

ปกติใช้เวลา 1–3 วันทำการกรณีเอกสารครบและกระแสเงินสดชัดเจน อาจอนุมัติได้ภายใน 24 ชั่วโมง


4) วงเงินสูงสุดของสินเชื่อคลินิกอยู่ที่เท่าไหร่?

วงเงินขึ้นอยู่กับรายได้คลินิกแต่ละแห่ง แต่โดยทั่วไป

  • เริ่มต้น: 300,000 บาท

  • สูงสุด: หลายล้านบาทเหมาะสำหรับซื้อเครื่องมือแพทย์หรือขยายกิจการ


5) ใช้เอกสารอะไรบ้างในการสมัครสินเชื่อทางการแพทย์?

เอกสารพื้นฐานมีดังนี้

  • สำเนาบัตรประชาชน

  • ทะเบียนบ้าน

  • เอกสารนิติบุคคล (ถ้ามี)

  • ใบอนุญาตประกอบกิจการคลินิก

  • Statement ย้อนหลัง 6–12 เดือน

  • เอกสารรายได้และค่าใช้จ่ายของคลินิก


6) คลินิกที่มีภาระหนี้อยู่แล้วสามารถสมัครได้ไหม?

สามารถสมัครได้ แต่ผู้ให้บริการจะประเมินภาระหนี้ (DSR) และยอดขายว่ามีความสามารถผ่อนชำระเพิ่มหรือไม่กรณีภาระหนี้สูง อาจแนะนำให้ใช้รูปแบบ วงเงิน OD (Overdraft) ที่ยืดหยุ่นกว่า


7) คลินิกในกรุงเทพมีโอกาสอนุมัติสูงกว่าพื้นที่อื่นไหม?

ใช่ครับ เพราะ

  • มีกลุ่มลูกค้าเยอะ

  • มีศักยภาพการเติบโตสูง

  • รายได้เฉลี่ยต่อคลินิกสูง

  • ผู้ให้บริการสินเชื่อเข้าใจทำเลและสภาพตลาดจึงทำให้การพิจารณาง่ายและเร็วกว่า


8) ใช้สินเชื่อทางการแพทย์เพื่อซื้อเครื่องเลเซอร์หรือเครื่อง X-ray ได้ไหม?

ได้ 100% เพราะสินเชื่อทางการแพทย์ถูกออกแบบมาสำหรับการซื้ออุปกรณ์ราคาแพงเหมาะกับคลินิกที่ต้องการเพิ่มบริการใหม่หรืออัปเกรดเครื่องมือ


9) ถ้าคลินิกไม่มีเอกสารบัญชีชัดเจน จะสมัครได้ไหม?

ยังสมัครได้ แต่ต้องมีอย่างน้อย:

  • รายรับ–รายจ่ายของคลินิก

  • การเดินบัญชีที่สม่ำเสมอ

  • หลักฐานการดำเนินงานจริงหากทำบัญชี “คลินิกมินิมอล” แต่รายได้จริงดี ก็ยังมีโอกาสอนุมัติสูง


10) การกู้สินเชื่อคลินิกจะกระทบเครดิตบูโรไหม?

ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อบางบริการ ไม่เช็คบูโรบางบริการ เช็คเฉพาะสถานะ ไม่เน้นคะแนนแต่หากชำระดี จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้อนาคตขอวงเงินสูงขึ้นง่ายขึ้น


11) คลินิกสามารถขอเพิ่มวงเงินในภายหลังได้หรือไม่?

ได้ครับ หากชำระตรงเวลาและยอดขายเพิ่มขึ้นผู้ให้บริการมักเพิ่มวงเงินให้อัตโนมัติหลังตรวจสอบกระแสเงินสด


12) สินเชื่อทางการแพทย์ต่างจากสินเชื่อ SME ทั่วไปอย่างไร?

แตกต่างชัดเจน 3 ด้าน

  1. พิจารณาจาก รายได้คลินิก มากกว่าเอกสารที่ซับซ้อน

  2. รองรับ การซื้อเครื่องมือแพทย์ / ขยายพื้นที่บริการ

  3. วงเงินสูงและผ่อนชำระยืดหยุ่นกว่าเหมาะสำหรับธุรกิจคลินิกโดยเฉพาะ


13) ถ้าคลินิกมีสาขาหลายแห่ง สามารถยื่นขอสินเชื่อหลายวงเงินได้ไหม?

ได้ครับ และมีโอกาสได้วงเงินสูงขึ้น เพราะ

  • รายได้รวมเพิ่ม

  • โครงสร้างธุรกิจมั่นคง

  • มีฐานผู้ใช้บริการจำนวนมาก


14) วงเงิน OD สำหรับคลินิกคืออะไร?

วงเงิน OD (Overdraft) คือวงเงินสำรองใช้ยามฉุกเฉิน เช่น

  • เครื่องมือเสีย

  • เงินเดือนพนักงาน

  • ค่าเช่าสถานที่เป็นวงเงินที่ดึงใช้เมื่อจำเป็น และคิดดอกเบี้ยเฉพาะยอดที่ใช้จริง


15) ควรเลือกสินเชื่อประเภทไหนดี ถ้าคลินิกต้องการเติบโตเร็ว?

ถ้าเป้าหมายคือ

  • ซื้อเครื่องมือแพทย์ → เลือกสินเชื่ออุปกรณ์

  • เปิดสาขาใหม่ → เลือกสินเชื่อขยายกิจการ

  • เสริมสภาพคล่อง → เลือกสินเชื่อหมุนเวียนหรือวงเงิน ODปรึกษาเจ้าหน้าที่สามารถช่วยประเมินได้แม่นยำที่สุด


เจ้าของกิจการคลินิกเครียดที่เครื่องมือเสียหาย

ติดต่อขอคำปรึกษาสินเชื่อทางการแพทย์

📞 โทร: 082-043-4457

✉️ Email: getcash00147@gmail.com

🌐 เว็บไซต์: www.getcash-consultant.com



สินเชื่อทางการแพทย์


 
 
 

ความคิดเห็น


Contact

บริการสินเชื่อธุรกิจ
บริการสินเชื่อธุรกิจ
บริการสินเชื่อธุรกิจ
บริการสินเชื่อธุรกิจ

ติดต่อเรา

GETCASH-CONSULTANT loan for Thailand business.

89/1 พระราม3 ช่องนนทรี ยานนาวา กทม 10120

bottom of page